มีทำเล มีที่ มีทาง มีใจ ถ้าใครมีคำตอบครบตามนี้ย่อมพร้อมที่จะทำการเลี้ยงแพะได้แล้ว หลายๆ ท่านอาจจะแย้งว่า มันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ
ยังดอกครับท่าน อย่าเพิ่งเชื่อ "เพราะการลงทุน ย่อมมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณ ก่อนตัดสินใจ"
การเลี้ยงแพะ ที่จะกล่าวต่อไปนี้คือ "การเลี้ยงแพะเชิงพาณิชย์"หรือ "การเลี้ยงแพะเพื่อการค้า"ดังนั้นจึงเป็นการเลี้ยงแพะเพื่อที่จะขายแพะออกไปในวันข้างหน้า
ไม่ใช่เป็นการเลี้ยงเพื่อการบริโภคในครัวเรือน หรือเพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา ฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำก็คือ การทำฟาร์มแพะ และแน่นอนย่อมต้องมีการลงทุนแน่ๆ
ฉะนั้นก่อนตัดสินใจลงทุน เราต้องสำรวจความพร้อมของเราดูก่อนว่า ตั้งอยู่บนความเสี่ยง หรือเปล่า เสี่ยงมาก เสียงน้อย หรือว่า สบาย สบาย และความพร้อมสำหรับการเลี้ยงแพะเพื่อการค้านั้นมีอะไรบ้างที่ควรจะทราบ เรามาลองสำรวจกันดีกว่า
จากข้อความข้างต้น มีทำเล มีที่ มีทาง มีใจ ย่อมมีชัยในการเลี้ยงแพะจริงหรือ ขอเริ่มต้นนำท่านไปสำรวจทำเลกันก่อนก็แล้วกัน
"ทำเล" คือสถานที่สำหรับจะทำการเลี้ยงแพะ ควรเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงสัตว์หรือแพะ ถ้าท่านตอบว่า เยี่ยมเลย ทำเลดีมากครับ ไปมาสะดวก มีทุ่งหญ้า บริเวณโล่งกว้าง มีภูเขา สุมทุมพุ่มไม้เขียวขจี ต้นไม้เล็ก ต้นไม้ใหญ่ มีเต็มไปหมด มีห้วย คลอง หนองน้ำ ตลอดปีไม่มีหมด ถ้าได้ทำเลแบบนี้คำตอบคือทำเลของท่านพร้อมมากๆ ทีเดียวเชียว
แล้วถ้าไม่ได้อย่างที่กล่าวแล้วจะเลี้ยงแพะไม่ได้เลยหรือ คำตอบคือสามารถเลี้ยงแพะได้ แต่สิ่งเหล่านั้นคือแหล่งอาหารแพะตามธรรมชาติ เป็นการลดต้นทุนในด้านการจัดการอาหารแพะ อีกวิธีหนึ่ง แต่เราสามารถสร้างแหล่งอาหารขึ้นมาเองตามรูปแบบธรรมชาติได้ ดังนั้นถ้าท่านมีแหล่งอาหารก็ถือว่าพร้อมเช่นกัน
"มีที่" คือ ที่อยู่ ที่มา และที่ไป ที่อยู่ก็คือบ้านของแพะ หรือที่เรามักเรียกกันว่าโรงเรือนแพะ ซึ่งก็คือที่ตั้งฟาร์มแพะของเราในอนาคตนั่นแหละ ถ้าท่านตอบว่า ไม่ต้องห่วงหรอก มีที่เหลือเฟือ เลี้ยงแพะได้เป็นร้อยๆ ด้านหลังติดภูเขา ด้านหน้าติดลำคลอง ด้านข้างเป็นที่ว่างเปล่า มีต้นกระถินขึ้นเต็มไปหมด พูดง่ายๆ คือ เรามีสินค้าคุณภาพดีที่พร้อมจะขาย
ที่มาและที่ไป ก็คือการวางแผนฟาร์มแพะในอนคตหลังจากการตัดสินใจที่จะเลี้ยงแพะแล้ว
ที่มา คือแพะที่เราจะนำมาเลี้ยง มาจากไหน ประวัติเป็นมาอย่างไร ดี หรือไม่ดี แค่ไหน พูดง่ายๆ ก็คือ การหาสินค้าดีๆ เข้ามาไว้ขายในอนาคต
ที่ไป คือตลาด หลังจากที่ตัดสินใจทำฟาร์มแพะแล้ว ไปขายที่ไหน ราคาเท่าไร ใครซื้อ พูดง่ายๆ คือ ตลาดดีๆ ที่สินค้าดีๆ ของเราจะไปขายได้ราคาดี
ที่มาที่ไป คือเรารู้จักแพะดีพอแล้วหรือ ถ้าท่านตอบได้ว่า
แพะเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก กระเพาะสี่ มีเขากลวง มีเท้าเป็นกีบ ตั้งท้องประมาณ 150 หากินเก่ง ชอบกินใบไม้มากกว่าหญ้า ชอบนอนที่สูง มีโรคที่สำคัญคือแท้งติดต่อ ปากเท้าเปื่อยและพยาธิ ถ้าท่านพูดได้ขึ้นใจขนาดนี้แสดงว่าท่านได้ค้นหาข้อมูลมาพอสมควรแล้ว ย่อมตัดสินใจได้ว่า จะซื้อแพะอย่างไร ขายแพะอย่างไร และสร้างโรงเรือนแพะอย่างไร อย่าลืมว่าโรงเรือนไม่ใช่สิ่งอวดอ้างความสำเร็จ ควรลงทุนตามความเหมาะสม
มีทาง แน่นอนเราคงต้องการทางที่เป็นได้มากที่สุด เราคงไม่ต้องการทางอื่น มีอะไรบ้างที่พอจะสำรวจความพร้อมเรื่องทางนี้ เอาหลักๆ ก็แล้วกัน
การจัดการฟาร์ม นับว่าเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของธุรกิจได้เลย เพราะฟาร์มแพะของเรา ก็คือธุรกิจของเรา บางคนเก็บเงินสะสมมาทั้งชีวิตนำมาลงทุน แต่บางคนเพียงแบ่งเงินเดือนมาไม่กี่เดือนก็ทำฟาร์มแพะได้แล้ว แสดงว่ากลุ่มนี้เป็นมนุษย์เงินเดือน หรือมีรายได้ประจำอยู่แล้ว แต่อยากมีรายได้เพิ่มด้วยการทำธุรกิจฟาร์มแพะ หรือบางท่านวางแผนเพื่อเปลี่ยนแนวทางชีวิตในอนาคต
แล้วเราต้องจัดการเรื่องใดเป็นที่สำคัญก่อนหลัง ข้อนี้ตอบได้ยากพอสมควร เพราะคำตอบสำเร็จรูปไม่มีขาย แต่ละคนมีความสามารถได้แตกต่างกัน ขอกล่าวโดยทั่วๆ ไปก็แล้วกัน คือการจัดการบุคลากร กับการบริหารเวลา
บุคลากรของฟาร์มมีใครบ้าง ตัวเรา เป็นลูกจ้างของฟาร์มเรา หรือมี คนงาน เป็นลูกจ้าง ใครรับผิดชอบดูแลส่วนไหน เช่น การติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ การเลี้ยงดู การดูแลสุขภาพแพะ หรือว่า คนงาน รับผิดชอบทั้งหมด
การบริหารเวลา ก็สำคัญ เพราะทุกคนมีเวลาวันละเท่าๆ กัน ในแต่ละช่วงเวลาในหนึ่งวัน ใครรับผิดชอบส่วนไหนของฟาร์ม ในหนึ่งวันเรามีเวลาเข้าไปจัดการฟาร์มหรือเปล่า หรือยกให้ คนงาน บริหารทั้งหมด
โปรดจำไว้ว่า หลายๆ ฟาร์มต้องเลิกกิจการไป เพราะมอบหมายให้ คนงาน เป็นผู้จัดการทั้งหมด เดี๋ยวขอขึ้นเงินเดือน ถ้าไม่ขึ้นให้เดี๋ยวขอลาออก ถ้าไม่ให้ลาออก เดี๋ยวก็ได้รับรายงานว่าแพะตาย ไม่ทราบแน่ชัดว่าเพราะสาเหตุใด บางฟาร์มเปลี่ยนคนงาน เป็นประจำ สุดท้ายเลิกกิจการ
เงินของเรา หยาดเหงื่อของเรา ทุกบาททุกสตางค์ล้วนทำงานแลกมา จงระมัดระวังในเรื่องการจัดการ แล้วจะหาคำตอบได้ไม่ยากว่าพร้อมหรือยัง
มีใจ จะเอากี่ใจดีละครับ หนึ่งใจ สองใจ หรือว่าสามใจ เอาทีละใจก็แล้วกัน
ใจรัก เราเป็นคนรักสัตว์หรือเปล่า โดยเฉพาะแพะ ซน และสามารถทำความเสียหายให้กับพืชผัก ของเราเองและของเพื่อนบ้านได้ ถ้าป้องกันไม่ดีพอ เป็นห่วงแพะแค่ไหน ถ้าไม่ได้เข้าฟาร์ม ลองคิดหาคำตอบดู
เอาใจใส่ ไม่ใช่แค่รักแพะ ชอบแพะ แล้วจะไปรอด อย่าลืม เอาดวงใจของเขามาใส่ใจของเรา เขาจะทุกข์จะสุขอย่างไร ก็เงินในกระเป๋าของเรา แพะเจ็บได้ ป่วยได้ และก็ตายได้ แต่พูดไม่ได้ แล้วใครจะช่วยแพะได้ โปรดทบทวนอีกครั้ง
ใจถึง คงไม่ต้องอธิบายมาก ต้องยอมรับได้ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ต้องพร้อมที่จะสู้ถ้าไม่เป็นไปตามแผนการที่เราได้วางไว้ พร้อมที่จะหาจุดบกพร่อง แล้วเริ่มการแก้ไข แน่นอนว่าถ้าเลี้ยงแพะแล้ว อย่างน้อยก็ใช้เวลาเป็นปี กว่าจะมีลูกมีหลานให้ได้ขาย แล้วระหว่างที่เลี้ยงอยูล่ะ เรากินอะไร มีคำตอบพร้อมแล้วหรือยัง
ถ้าพร้อมแล้วลุย
วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2550
เราพร้อมที่จะเลี้ยง "แพะ" แล้วหรือยัง ?
เขียนโดย Unknown ที่ 15:59
ป้ายกำกับ: การเลี้ยงแพะ, การเลี้ยงแพะเชิงพาณิชย์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
3 ความคิดเห็น:
ชอบมากเลยครับ โรงเรือนไม่ใช่สิ่งอวดอ้างความสำเร็จ ความสำเร็จอยู่ที่เจ้าของกิจการ วิสัยทัศน์ และความกล้า
ขอบคุณมากเลยนะครับ สำหรับบทความ
เลี้ยงแล้วไม่มีที่่ขายทำงัยดีเลี้ยงมาเกือบปีแล้วถ้าขายได้ก็นานๆครั้งราคาก็อยู่ที่ ร้อยต้นๆต่อกิโลเองจะติดต่อใครปรึกษาใครดีช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
แสดงความคิดเห็น