วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

OTOP การตลาดราคาประหยัด (2)


"OTOP" อ่านว่า "โอ ท๊อบ" ดีหรือว่า "โอ ท็อบ" ดีกว่า หรือจะอ่านว่า "โอ ตบ" ดีที่สุดล่ะ แต่คงไม่มีใครอ่านว่า "อด อบ" กระมังน่ะ

อ้อ... มีคนแซวมา ต้องอ่านว่า "๑ ที ๑ พี" สิถึงจะถูกต้องตามความหมายเดิม...อันนี้ ไม่ขอวิจารณ์ซ้ำก็แล้วกัน


หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือว่าหนึ่งจังหวัดมีผลิตภัณฑ์อยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็ยังไม่อาจจะกล้าสรุปได้ เพราะว่างานนี้เขาจัดกันมาหลายปีแล้ว หนำซ้ำบางปีท่านดันเอาไปจัดอยู่ในสนามฟูตบอล ท่ามกลางแหล่งรถติด มลพิษสูงสุด ไปมาลำบาก ซื้อของแล้วขนกลับบ้านไม่ได้ คนขายขายก็ร้อนสุดๆ คนซื้อก็เบื่อเหลือทน ที่เล่ามาทั้งหมดล้วนจบไปแล้ว ฉนั้น โปรดอย่าได้นำมาเป็นนิยายให้เมื่อยตุ้ม

สรุปว่างาน OTOP เป็นงานที่ทางการจัดขึ้นเพื่อใช้งบประมาณแผ่นดินให้หมดไป โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดการหมุนเงินจนเวียนหัวไปทุกแห่งทุกหนทุกตำบลกระสุนตก และสุดท้ายก็พอจะสร้างรายได้บ้างให้กับเกษตรกรและชาวรากหญ้า ผู้ซึ่งมีโอกาสน้อยมากในทางการตลาดที่จะนำเสนอสินค้าและผลงานแห่งความสามารถของตนสู่สากลโลกหรือตลาดโลก และถ้ามีผู้ใดสงสัยว่าตลาดโลกอยู่ ณ ที่ใด นั่งรถเมล์สายไหนไป หรือรถไฟฟรีไปลงสถานีอะไร ขับรถไปเองได้หรือเปล่า อันนี้ขอยกยอดไปตอบกาละครั้งถัดไปก็แล้วกัน


งาน OTOP เป็นงานที่น่าสนใจมากสำหรับนักการตลาดหน้าใหม่ เป็นงานการตลาดที่ลงทุนไม่มากนักสำหรับเจ้าของผลิตภัณฑ์ ที่จะแนะนำสินค้าของตนให้ปรากฎแก่สายตาผู้คนจำนวนนับร้อย นับพัน นับหมื่น หรืออาจจะนับแสนคู่ก็เป็นได้ แล้วแต่การนำเสนอของเราว่าจะเรียกความสนใจจากผู้คนได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการคนจะทำให้คนเป็นร้อย เป็นพันรู้จักสินค้าเราได้ก็ต้องลงทุนในการประชาสัมพันธ์พอสมควร เช่น การลงทุนพิมพ์แผ่นพับหรือใบปลิวไปแจกตามงานแพะต่างๆ หรือซื้อโฆษณาในหน้าหนังสือต่างๆ เป็นต้น

กลับเข้าสู่โหมดแห่งการทัวร์อย่างเร่งรีบกันต่อดีกว่า ตอนนี้ขอนำพาท่านได้ยังภาคกลาง เริ่มจากจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ ก่อนเพราะกรุงเทพฯ ตระเวนดูแล้วไม่ยักกะเจอแพะเลย แปลกมากๆ
เริ่มจากจังหวัดนนทบุรีก็แล้วกันเพราะถิ่นนี้มีการส่งเสริมการเลี้ยงแพะอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ตะลอนๆ มาเรื่อยๆ พบเข้าจนได้ มีอยู่หนึ่งบู๊ต แวะเข้าไปหวังทักทายด้วยก็ไม่มีโอกาสเพราะเจ้าของบู๊ตติดคิวกับผู้อื่นที่ไปเก็บข้อมูลอยู่เช่นกันและดูท่าทางแล้วทำท่าจะยาวก็ขอเลยไปที่อื่นต่อก็แล้วกัน ถ้ามีเวลาเหลือแล้วจะกลับมาใหม่



Read More......

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

OTOP การตลาดราคาประหยัด


การตลาด นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะอย่ายิ่งสำหรับหน้าใหม่หรือมือใหม่แล้ว ต้องครุ่นคิดอยู่หลายตลบเหมือนกัน

จะทำอะไรขายดี จะขายราคาเท่าไร ถึงจะโดนใจคนซื้อ และจะเอาสินค้าไปขายที่ไหน แล้วจะทำการส่งเสริมการขายอย่างไร ยิ่งถ้าในระดับรากหญ้าด้วยแล้ว โอกาสทางการตลาดยิ่งมีน้อยเป็นเงาตามตัวไปด้วย

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงาน OTOP midyear 2009 ที่เมืองทองธานี และเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนเสียด้วย กว่าจะฟันฝ่าผ่านด่านการจราจรอันคับคั่งเข้าไปในงานได้ก็ใช้เวลาหมดไปมากโขเหมือนกัน โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีเวลาอันจำกัด

เดินผ่านประตูเข้าไปก็พบว่าบนเวทีใหญ่มีผู้คนเยอะแยะจึงแวะเข้าไปดูกับเขาบ้าง อ๋อ รมต. ท่านกำลังกล่าวปิดงานนะเอง ไม่ได้การแล้วซิ จังซี่ มันต้องถอน ว่าแล้วก็รีบจ้ำอ้าวเป็นการใหญ่ ก่อนที่จะเป็นการไปดูเขาเก็บร้านกัน เอายังไงดีล่ะทีนี้ เอาเป็นว่าเรามาสำรวจตรวจตราสินค้าที่เป็น ผลิตภัณฑ์จากน้ำนมแพะ เป็นหลักก็แล้วกัน

ภาคใต้


หลบฉากจากเวทีใหญ่ก็มุ่งไปสู่ภาคใต้อย่างรีบด่วน เพราะอย่างไรเสียก็ต้องมีผลิตภัณฑ์จากน้ำนมแพะแน่นอน เพราะ มร.แพะ จาก สสว. เคยบอกไว้ว่า แพะภาคใต้มาร่วมด้วยทุกงานแน่นอน และแล้วก็แจวมาจอดที่ป้าย จ.ปัตตานี แต่เจ้าของบู๊ท (Boot)ไม่อยู่ จึงรีบเดินทางไปยังภาคอีสาน และภาคเหนือ ด้วยวิธีการสุ่มสำรวจว่าจังใดควรจะมีสินค้าจากน้ำนมแพะบ้าง แต่ก็ไม่พบ จึงวกกลับสู่กรุงเทพฯ หลังจากสำรวจร้านค้าต่างๆ จนเป็นที่พอใจแล้วก็แจวต่อ เป้าหมายคือ จ.ปัตตานี ที่เดิม และได้พบกับคุณเวโซะ ไม่แน่ใจว่าออกเสียง แวโซะ หรือ เวโซะ ฟังไม่ชัด จึงถามกลับไปว่า ชื่อนี้แปลว่าอะไรหรือครับ ก็ได้รับคำตอบว่า "เป็นชื่อของภรรยาพระนาบีอีกคนหนึ่ง" สำหรับงานนี้ได้ขนสินค้ามามากพอสมควร มีทั้งสบู่สูตรต่างๆ และโลชั่น บางรายการไม่มีเหลือของให้ขนกลับ ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน "OTOP" ทุกครั้ง

การตลาด ในปัจจุบันมีทั้งการออกร้านค้าตามงานต่างๆ และขายส่งทางพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ ถ้าสั่งซีอครั้งละมากๆ ก็จะได้รับส่วนลดที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน

Read More......